ถ่ายเมื่อ พ.ศ. 2527 แต่จำไม่ได้ว่าเอามาจากเว็บไหน
วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2551
วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
เชียงของ: วิหารเก่าแก่วัดเชียงของ
วัดเชียงของ อ. เชียงของ จ. เชียงราย เป็นอาคารเครื่องไม้เก่าแก่ของท้องถิ่น ลักษณะเป็นอาคารโถงขนาดใหญ่ สร้างขึ้นด้วยวิธีการง่ายๆ แต่ชาญฉลาด โดยการใช้คานไม้ล้อมเสาวิหารทุกต้นไว้ด้วยกันในตอนบน ทำให้อาคารตั้งอยู่อย่างปลอดภัย แม้ว่าโคนเสาเบื้องล่างจะขาดคอดิน เนื่องจากการผุกร่อนก็ตาม หลังคามุงด้วยกระเบื้องไม้ ก็ใช้ขอไม้เกี่ยวกับไม้ระแนงที่ทำจากต้นหมาก โดยไม่ต้องใช้ตะปูหรือโลหะยึด
ข้อมูล เมืองโบราณ
ล้านนา: สิบสองปันนา

เมือง ลื้อ คือ สิบสองพันนาตำนานเมืองลื้อเล่าว่า ชาวลื้อมาจากเมืองลื้อหลวง ข้ามแม่น้ำทรายใหลมา จึงเรียกว่า คนลื้อ สมัยยุคหนึ่งก็ได้สร้างบ้านแปงเมืองเรียกว่า อาณาจักรหอคำเชียงรุ่ง สิบสองปันนา สิบสองปันนามาจากการปกครองสิบสองเขต ที่เรียกว่า ปันนาสมัยราชวงค์หยวนของจีน ได้ถูกกองทัพกุปไลข่านทำลาย และได้เป็นเมืองขึ้น จึงถูกเรียกว่า แซนเหว่ย หรือ แสนหวี แปลว่า เมืองที่เป็นเมืองขึ้น
เชียงรุ้ง เมืองหลวงของแคว้นสิบสองปันนา คือเมืองเชียงรุ้ง หรือ จิ่นหง (Jinghong) มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำล้านช้าง เป็นศูนย์รวมของอารยธรรมโบราณ และชาวพื้นเมือง หลากหลาย กว่า 20 เผ่าพันธุ์ ซึ่งหนึ่งในกลุ่มใหญ่ๆนั้นคือชาวเผ่าไท หรือ ไต ที่ประกอบด้วยไทเผ่าต่างๆ และกลุ่มไทที่มีมากที่สุดคือ ไทลื้อที่เป็นชนชาติไท ที่มีประเพณีวัฒนธรรมคล้ายคลึงกันกับกลุ่มไทลื้อใน อำเภอสันกำแพง เชียงใหม่ และไทลื้อใน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ภาษาจีนกลาง Mandarin เป็นภาษาที่ใช้กันมาก รองลงมาคือภาษาไทยเหนือ (คำเมือง) ผู้คนที่นี่มีอัธยาศัยดี ชาวไทลื้อในเชียงรุ้งมีประเภณีสงกรานต์เหมือนบ้านเรา ช่วงเดือนเมษายน สถานที่ ท่องเที่ยวในเชียงรุ้ง และแคว้นสิบสองปันนา มีมากมายทั้งทางธรรมชาติ วัดวาอาราม ให้ชื่นชมและสัมผัส
การเดินทางเข้าไปเที่ยวเมืองสิบสองปันนา สามารถทำเรื่องผ่านแดนที่ด่าน ต้าลั๊วะ ซึ่งด่านนี้เปิดให้คนพม่าและจีนเข้าออกได้ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญประจำเมืองเชียงรุ่ง ที่อยากแนะนำ ได้แก่
1.สวนม่านทิง สวนสาธารณะประจำเมืองเชียงรุ่ง มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ชุนควน ซึ่งมีความหมายว่า สวนแห่งวิญญาณ ตั้งอยู่กลางเมือง บนพื้นที่กว่า สามพันตารางกิโลเมตร ร่มรื่นด้วยต้นขี้เหล็ก จำนวนมากสวนแห่งนี้ บริเวณไกล้สวนเป็นบริเวณวัด ป่าเจ ซึ่ง เป็นวัดไทยลื้อ นักท่องเที่ยวสามารถกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
2. วัดเจดีย์ขาว ซึ่งเป็นปูชนียสถานที่สำคัญ มีรูปร่างคล้ายกับพระธาตุไชยา ของไทย และ เจดีย์ขาว นี้ มีความสำคัญและเป็นที่เคารพสักการะ ของคนเชียงรุ่งอย่างมาก เราสามารถ พบเห็นรูปของ เจดีย์ขาว ได้ทั่วไป ตามโปสเตอร์ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างๆในคืนวันสำคัญทางศาสนา ต่างๆ จะมีการเวียนเทียนรอบๆเจดีย์ขาวนี้ด้วย โดย ผู้ชายจะเดินอยู่วงรอบด้านใน ส่วนผู้หญิง จะเดินอยู่วงรอบด้านนอก
3. อนุสาวรีย์ ท่าน โจว เอน ไหล อดีตนายกรัฐมนตรีของจีน แต่งกายในชุดแบบ ชาว ไทยลื้อ มือหนึ่งถือขันน้ำ
มือหนึ่งถือใบไม้ เพื่อเล่นน้ำสงกรานต์ กับชาวบ้าน ในอดีตเมื่อ ค.ศ.1961 ท่าน โจว เอน ไหล เคยได้มาเล่น สงกรานต์ กับชาวสิบสองปันนา จนกลาย เป็นที่ประทับใจไม่รู้ลืม จึงเป็นสาเหตุให้มีการสร้าง อนุสาวรีย์ ไว้
4.วัด กันหลั่นป้า หรือ วัดมหาสุทธาวาส ซึ่งเป็นวัดไทลื้อ โบราณ ภายในมีพระประธานขนาดใหญ่ ประดิษฐานอยู่รองลงมามีพระพุทธรูป เล็กๆเรียงรายอีกหลายองค์ ตัวอุโบสถ นั้น ก่อสร้างด้วยไม้ ไม่มีการตอกเข็ม แต่จะเป็นการ วางเสาไม้บนแท่นหิน แทน ซึ่ง นับเป็น หลักการปลูกสร้างของชาวไทลื้อปรกติ ภายในมีการเขียนลวดลายด้วยวิธีแบบเสตนซิล แต่ไม่มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง
นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรมชาวไทลื้อ และยังสามารถเลือกซื้อของที่ระลึกมากมายอาทิเช่น จำพวก ผ้าทอ ต่างๆ อาหารการกิน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยไปสัมผัสวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกันกับบ้านเรา ....
เชียงของ: สงครามกับเงี้ยว (ไทยใหญ่)
กองทัพสยาม เดินทางจากกรุงเทพ มาปราบเงี้ยว หัวเมืองพายัพ ปี ๒๔๔๕ | ร.ศ. ๑๒๒ ตรงกับ พ.ศ.๒๔๔๖ คนเชียงของต้องเผชิญกับกลุ่มเงี้ยว(ไทยใหญ่) ด้วยเหตุมีเงี้ยวกลุ่มหนึ่ง หัวหน้าชื่อกาหม่อง เป็นคนที่ชอบเล่นการพนัน และติดหนี้พนันเป็นจำนวนมาก จึงหาเงินใช้หนี้ด้วยการปล้นชิงทรัพย์ | |
ตลอดเส้นทางที่หลบหนี ได้ปล้นฆ่าชิงทรัพย์ เผาบ้านของราษฎรมาตลอดจากแพร่ น่าน ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย บ้านน้ำแพร่ ป่าบง เทิง แต่เมื่อมาถึงเชียงของ เงี้ยวเริ่มผูกมิตรกับชาวบ้านเพราะต้องการใช้เมืองเชียงของเป็นที่กบดาน เวลานั้นเชียงของถูกกำหนดเป็น “ดินแดนส่วนกลาง” ระหว่างประเทศสยาม กับ ดินแดนในบังคับของฝรั่งเศส ตามสนธิสัญญา ๓ ตุลาคม ร.ศ.๑๑๒(พ.ศ.๒๔๓๗) ระหว่างรัฐบาลแห่งสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ทำให้กลุ่มเงี้ยวพ้นการไล่ล่าของกองทัพสยาม เมื่อมาถึงเชียงของพวกเงี้ยวประมาณ ๓๐๐ คน ได้อาศัยวัดหลวงเป็นที่พักพิง และอีกกว่า ๑๐๐ คน ปะปนอยู่กับชาวบ้านทั่วไป อยู่อย่างสงบได้ไม่นาน ทรัพย์สินที่เงี้ยวปล้นมาเริ่มหร่อยหรอ จึงเริ่ม... “ขอ” ด้วยการพูดจาอ่อนหวาน แสดงความเคารพนบนอบ และยกมือไหว้ เจ้าน้อยจิตวงษ์(เจ้าเมืองเชียงของ) โดยบอกว่าขอเงินเพื่อเป็นทุนซื้อเสบียงเพียงเล็กน้อย... ต่อมาภายหลังเริ่มได้ใจ ขอหนักขึ้นเป็นลำดับ เจ้าเมืองเชียงของของเริ่มถอดใจ เพราะหมดเงินไปกว่าสองพันบาท จึงไม่ยอมให้อีก หัวหน้าเงี้ยวเริ่ม“ขู่บังคับ” โดยเขียนติดหน้าประตูบ้านเจ้าเมืองว่า...“ เจ้าหลวงเป็นผู้ที่มีเงิน คนจนมาขอเงินก็ไม่ให้ เจ้าหลวงเป็นคนไม่มีจิตใจเผื่อแผ่ ใจดำ ไม่เอ็นดูคนจน ทีนี้พวกเราจะขู่เอาเงินค่าปรับจากเจ้าหลวงผู้ใจดำให้เจ้าหลวงชำระเงินให้พวกเราเป็นเงิน ๓๓,๓๓๓,๓๐๐ บาทกับ ๓๓ อัฐ ให้นำเงินให้แก่พวกเราที่อยู่วัดหลวงภายใน ๗ วัน นับตั้งแต่วันปิดหนังสือนี้เป็นต้นไป” เจ้าจิตวงษ์เริ่มเห็นภัยที่จะมาถึง จึงคิดแผนหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ได้เจรจาผลัดผ่อนขอเวลา ๑๕ วัน เพื่อขอเรี่ยไรจากราษฎร แล้วทำทีเรียกผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านมาเพื่อให้เห็นว่าตั้งใจจริงที่จะหาเงินให้พวกเงี้ยว แตแท้จริงเรียกเพื่อแจ้งถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ และบอกให้ผู้ใหญ่บ้านทราบว่า จำเป็นที่ตนจะต้องหนีไปพึ่งฝรั่งเศส ด้วยเชื่อว่าหากหนี้ไปพวกเงี้ยวคงไม่ทำอันตรายราษฎร ๑ มีนาคม ๒๔๔๖ เจ้าเมืองเชียงของได้เรียกราษฎร ๑๕๐ คนมาที่โรงช้าง เหมือนว่ามีการประชุมตามปกติ ทว่าเจ้าเมืองได้หนีออกทางป่าหลังบ้านพร้อมบุตรชายคนเล็กและภรรยา แล้วข้ามฟากแม่น้ำโขง ที่บ้านหาดไคร ้ไปยังเขตฝรั่งเศส เมืองห้วยทราย เข้าพบ กอมมิแซร์ (เทียบเท่าผู้ว่าราชการจังหวัด) โดยให้เจ้าหนานบุษรศ เป็นผู้รักษาบ้านแทน อีกด้านหนึ่งในทางลับ เจ้าหนานบุษรศ ได้รวบรวมสมัครพรรคพวกที่เป็นชายฉกรรจ์เข้าร่วมวางแผนการกับผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเห็นร่วมกันว่า จะลุกขึ้นปราบพวกเงี้ยวในวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๔๔๗ โดยได้ข้ามฟาก ไปขอยืมอาวุธปืนและกระสุนจำนวนหนึ่ง จากกอมมิแซร์ แต่ในคืนวันที่ ๘ มีนาคม ๒๔๔๗ ได้รับการทักท้วงจากพญาหลวงราชไมตรีสิทธิมังคละ ข้าราชการอาวุโสผู้หนึ่ง โดยข้าราชการผู้นี้ให้เหตุผลว่า ไม่สามารถที่จะคาดคะเนกำลังที่แท้จริงของพวกเงี้ยวได้ เพราะบางส่วนหลบซ่อนอยู่ แม้ว่าจะรบชนะขับไล่พวกเงี้ยวจากหมู่บ้าน แต่พวกเงี้ยวอาจออกปล้นฆ่าราษฎรในที่ต่าง ๆ หากแพ้ก็จะถูกฆ่าฟัน ไม่ว่าผู้หญิงหรือเด็ก ทั้งอาจถูกเผาบ้านเรือน เพราะขณะนี้เชียงของไม่สามารถของกำลังหนุนจากฝ่ายใดได้ ไม่ว่าทั้งกำลังของสยาม หรือของฝรั่งเศส เพราะถูกกำหนดให้เป็นดินแดนส่วนกลาง เช้าของวันที่ ๙ มีนาคม ๒๔๔๖ เจ้าหนานบุษรศเรียกแกนนำชาวบ้านประชุมลับ เพื่อล้มเลิกแผนการณ์ทั้งหมดไว้ก่อน พร้อมส่งอาวุธคืนให้แก่ฝรั่งเศส แล้วเจ้าบุษรศเองก็ได้หลบหนีเงี้ยวจากเมืองเชียงของ ข้ามไปอยู่เมืองห้วยทราย โดยไปทำงานเป็นเสมียนให้กับ กอมมิแซร์ ขณะเดียวกันลุ่มเงี้ยวก็ได้เข้าพบกับ กอมมิแซร์ เช่นกัน เพื่อหาทางสู้กับกองทัพสยาม กอมมิแซร์ ยังได้แนะนำวิธีการต่อสู้ให้กับพวกเงี้ยว และในปี ๒๔๔๗ นั้น สยาม กับ ฝรั่งเศส ได้เจรจาตกลงกันตามเงื่อนไขเขตแดนว่า จะให้เชียงแสนเก่าและเชียงของ เป็นดินแดนของสยามโดยเด็ดขาด | ||
|
| |
๒๓ เมษายน ๒๔๔๗ นายพันโทหลวงชาญสอนกล มีหนังสือเชิญเจ้าจิตวงษ์ กลับมาเป็นเจ้าเมืองเชียงของงตามเดิม ต่อมาภายหลัง รัฐบาลสยาม ได้ตั้งเชียงของขึ้นเป็นเมืองพิเศษ โดยจัดให้ พระยาบรมบาทบำรุงข้าหลวงประจำนครน่าน มาเป็นข้าหลวงประจำเมืองเชียงของ พร้อมตั้งกองสอบสวนคดี กองศาล กองข้าหลวง และอัยการ เพื่อชำระสะสางคดีผู้ที่เกี่ยวข้องและร่วมมือกับพวกเงี้ยว รวมทั้งกองทหาร กองตำรวจ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ข้อมูล ศึกเงี้ยว | ||
เชียงของ: เจ้าเมืองในอดีต
เจ้าเมืองเชียงของตามลำดับ
- เจ้าอริยะ
- เจ้ารำมะเสน
- เจ้าวิทูระ
- เจ้าคำขึ้น
- เจ้าอนุรส
- เจ้าอริยะ (บุตรของเจ้าวิทูระ ซึ่งมีชื่อคล้องกับเจ้าเมืองคนแรก)
- เจ้าอินต๊ะยศ
- เจ้าจิตวงษ์
ในสมัยรัชกาลที่ ๑ - ๕ เมืองเชียงของขึ้นตรงต่อหัวเมืองน่าน ภายใต้การปกครองของประเทศสยาม
่จนกระทั่งในสมัยพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ราว พ.ศ. ๒๔๒๓ ได้เป็นเมืองบริเวณ หนึ่งใน ๕ หัวเมือง อันประกอบด้วย เมืองฝาง เมืองพะเยา เมืองเชียงราย เมืองเชียงแสน เมืองเชียงของ
ต่อมาปี ๒๔๕๓ รัชกาลเดียวกัน ทรงโปรดให้มีการจัดการปกครองมณฑลพายัพขึ้น ได้ยกเมืองเชียงรายขึ้นเป็นเมืองจัตวา รวมอยู่ในมณฑลพายัพ มีศูนย์กลางอยู่ที่เชียงใหม่ และให้เชียงของเป็นอำเภอหนึ่งของเมืองเชียงราย
เจ้าจิตตวงษ์ เจ้าเมืองเชียงของในขณะนั้น ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรให้เป็นพระยาจิตวงศ์วระยศรังษี และเป็นนายอำเภอคนแรก ของเอำเภอเชียงของ
ข้อมูล ประวัติการสร้างเมืองเชียงของ" ของ ขุนภูนพิเลขกิจ (เจ้าหนานบุษรศ จิตตางกูร) พ.ศ.๒๔๔๘







